ติโม แวร์เนอร์ กับการเดิมพันครั้งสำคัญ

ติโม แวร์เนอร์ กับการเดิมพันครั้งสำคัญ

ข่าวที่ดังสุดชั่วโมงนี้ต้องเป็นดีลของ ติโม แวร์เนอร์ ที่สุดท้ายกลายเป็นเชลซีได้ตัวเค้าไปในที่สุด หลังจากตามข่าวมาตอนนี้ประกาศเป็นทางการออกมาแล้ว ค่าตัวถือว่าใช้ได้เลย การย้ายครั้งนี้มองอีกมุมถือว่าเป็นการเดิมพันครั้งสำคัญของ แวร์เนอร์ในชีวิตบนเส้นทางฟุตบอลเลย มีประเด็นอะไรน่าสนใจกันบ้าง
การเล่นฟุตบอลที่พรีเมียร์ลีค
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีค แม้จะเป็นนักเตะทีมชาติเยอรมันแต่ก็ต้องยอมรับว่าบางคนมาแล้วก็ประสบความสำเร็จ แต่บางคนก็เอาชื่อมาทิ้งก็มีด้วยเหมือนกัน ฟุตบอลพรีเมียร์ลีค จะมีความแตกต่างกับ ฟุตบอลบุนเดสลีก้าพอสมควร ถือว่าเป็นการเดิมพันของ แวร์เนอร์เหมือนกันว่า เมื่อเค้าต้องมาเล่นต่างแดน จะทำผลงานได้ดีเหมือนเดิมหรือไม่ เพราะแวร์เนอร์จะต้องมาชนกับกองหลังของพรีเมียร์ลีคที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหด เหนียว และเล่นกันแบบถึงเนื้อถึงตัวเลย เค้าจะกระดิกพลิกตัวไปยิง หรือ เลี้ยงบอลอาจจะไม่ง่ายเหมือนเก่า เค้าจะทำได้หรือไม่
การแย่งตัวจริงในทีมชาติ
มองในเรื่องของทีมชาติ ตอนนี้ ติโม แวร์เนอร์ อาจจะเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆในตำแหน่งกองหน้า แต่การย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีคอาจจะมองว่าเป็นการพาตัวเองให้ไกลหู ไกลตาจากผู้จัดการทีมชาติ พอสมควร นั่นทำให้มีโอกาสสูงเหมือนกันที่เจ้าตัวจะวืดตำแหน่งในทีมชาติ ยิ่งปีหน้ามีฟุตบอลยูโร 2020 ที่เลื่อนจากปีนี้ไปจากโควิท 19 รออยู่ด้วย หากเจ้าตัวอยากจะยึดกองหน้าทีมชาติ จะต้องเล่นให้ดีและหลากหลายมากกว่า ไม่งั้นอาจจะเสียตำแหน่งให้กับรุ่นน้องที่เล่นในบุนเดสลีก้าได้เหมือนกันถือว่าเป็นเดิมพันสูงเลย
การแย่งตัวจริงในทีมสโมสร
มองมาในทีมสโมสรกันบ้าง ใครหลายคนอาจจะมองว่า ติโม แวร์เนอร์ มาเพื่อยึดมือหนึ่งในตำแหน่งกองหน้า แต่เราก็รู้ว่ามีหลายครั้งนักเตะชื่อดังที่คาดว่าจะลงสนามแน่นอน แต่เอาจริงกลับโดนนักเตะอื่นมาแย่งตำแหน่งไปซะอย่างนั้น ตรงนี้ ติโม แวร์เนอร์ ก็ต้องเดิมพันด้วยเหมือนกันว่า ตัวเองจะปรับตัวเข้ากับแท็คติคของ แฟรงค์ แลมพาร์ดได้หรือไม่

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Related Post

ผมอยากกลับไปคุมทีมในพรีเมียร์ลีกอีกนะ – โปเช็ตติโน่กล่าวผมอยากกลับไปคุมทีมในพรีเมียร์ลีกอีกนะ – โปเช็ตติโน่กล่าว

เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ อดีตผู้จัดการทีมสโมสรดังอย่างไก่เดือยทอง ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ได้ออกมาเปิดใจถึงความปรารถนาของเขาที่หวังอย่างยิ่งว่าจะได้มาคุมทีมที่อังกฤษเพื่อเข้าแข่งในรายการพรีเมียร์ลีก หลังจากปลีกตัวเองไปพักจากความตึงเครียดของอาชีพที่เขารักนานถึงสามเดือนโดยไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับฟุตบอลเลย กุนซือวัย 47 ปีได้กลับมาอีกครั้งพร้อมกับไฟที่ลุกโชน โดยเฉพาะที่สหาราชอาณาจักรที่ทำให้ไฟในตัวเขาปะทุขึ้นมากอีกครั้งหนึ่ง โดยโปเช็ตติโน่ได้ให้สัมภาษณ์กับทางสกายสปอร์ต สื่อกีฬาชื่อดังเป็นเวลาเกือบชั่วโมง และดวงตาของเขาก็เปล่งประกายออกมาทันทีที่นาตาลี พิ้งค์แฮม ผู้สัมภาษณ์จากรายการ อิน เดอะ พิ้งค์ ถามถึงโอกาสที่เขาจะได้กลับมาเป็นโค้ชให้กับทีมสัญชาติอังกฤษอีกครั้ง “ถ้าให้พูดตามตรง ผมยินดีอย่างยิ่งเลยที่จะได้คุมทีมในพรีเมียร์ลีก ผมรู้ว่ามันยากมาก และตอนนี้ผมก็ทำได้แค่รอ และเดี๋ยวเราค่อยมาดูกัน ตอนนี้เป็นช่วงที่ผมควรพักและทบทวนตัวเองสักหน่อย ผมต้องพร้อมอยู่ตลอดเวลา กับวงการฟุตบอลอะไรก็เกิดขึ้นได้ ผมพร้อมและรอคอยความท้าทายใหม่ ๆ

3 ทีมอันตรายที่ลงไปเล่น ถ้วยยูโรป้าลีค3 ทีมอันตรายที่ลงไปเล่น ถ้วยยูโรป้าลีค

สิ่งหนึ่งที่ UCL รอบแบ่งกลุ่มรอบแรกไม่เหมือนกับการแข่งทัวร์นาเมนต์สโมสรอื่นก็คือ หากได้แชมป์กลุ่ม กับรองแชมป์ เราก็ผ่านเข้ารอบต่อไปสู่การน็อคเอาท์ หากได้ที่สามเราก็ยังได้อะไรปลอบใจอยู่นั่นคือการตกลงไปเล่นถ้วยยุโรปถ้วยเล็กที่ชื่อว่า ถ้วยยูโรป้าลีค ซีซั่นนี้มีทีมที่ต้องบอกว่าไม่น่าอกหักจากถ้วยใหญ่ลงไปเล่นถ้วยเล็กได้เลย แต่ก็ต้องไปตามกติกามีทีมไหนน่ากลัวบ้าง เราคัดมาเน้น 3 ทีม อินเตอร์ มิลาน ทีมใหญ่ที่เราขอบอกเลยว่าน่าเสียดายมากที่ต้องลงไปเล่นถ้วย ยูโรป้า ลีค นั่นก็คือ อินเตอร์ มิลาน ทีมยักษ์หลับของอิตาลีหลังจากฟุบไปนานตอนนี้พวกเค้ากลับมาอยู่ในฟอร์มที่ดีอีกครั้งหนึ่ง ยิ่งได้กุนซือมาดเนี้ยบอย่าง อันโตนิโอ คอนเต้ มาทำทีมด้วยแล้วทำให้ อินเตอร์ มิลาน ชุดนี้น่ากลัวมาก คิดดูว่าอินเตอร์ชุดนี้เป็นทีมเดียวที่พร้อมจะท้าชิงตำแหน่งแชมป์ลีคมาจากยูเวนตุสได้

แง้มแฟ้มประวัติ “โจ โคล” อดีตกองกลางฝีมือดีแห่งวงการฟุตบอลอังกฤษแง้มแฟ้มประวัติ “โจ โคล” อดีตกองกลางฝีมือดีแห่งวงการฟุตบอลอังกฤษ

“โจ โคล” อดีตกองกลางของทีมชาติอังกฤษ และ เชลซี ได้ประกาศอำลาวงการค้าแข้งเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยวัย 37 ปี ด้วยรูปร่างที่พริ้วไหวที่คล่องตัว การตัดสินใจที่เฉียบคม และลีลาฝีเท้าที่ดีเกินตัว ในวงการฟุตบอลอังกฤษเมืองผู้ดีในสมัยนั้น ซึ่งหาผู้เล่นประเภทนี้ได้ยากมากจน “โจ โคล” ได้ถูกยกให้เป็น “แกซซ่า [พอล แกสคอยน์] คนต่อไป” หลังประเดิมสนามให้ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ตั้งแต่อายุ 17 ปี และสวมปลอกแขนกัปตันทีม “ขุนค้อน” ในอีก 4