อัพเดทข่าวเด็ดวงการฟุตบอลให้ท่านได้รู้ตื้นลึกหนาบาง ข่าวฟุตบอล เก็บตกประเด็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสมอแบบหัวกรุ่นๆ

เก็บตกประเด็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสมอแบบหัวกรุ่นๆ

เก็บตกประเด็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสมอแบบหัวกรุ่นๆ

ใช้คำว่าผิดคาด ก็คงจะไม่ผิดนัก สำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ไม่สามารถเก็บ 3 แต้มสำคัญกับ เวสต์บรอมวิช ได้เลย ทั้งที่ ทีมนี้ว่ากันตามตรงแทบจะไม่มีอะไรน่ากลัวเลย สถิติชนะน้อยมากหลังบิ๊กแซม เข้ามาคุมทีม อย่างไรก็ตามในเมื่อฟุตบอลมันจบไปแล้ว ก็ต้องมาวิเคราะห์เพื่อให้ความกระจ่างกันหน่อย แม้ว่าแฟนบอลแมนยูจะหัวร้อนจนอุ่นก็ตาม

เสียประตูง่ายๆ (อีกแล้ว)

หากคุณคิดจะไปอยู่บนพื้นที่ ท็อปโฟร์ ความผิดพลาดจะต้องมีให้น้อยที่สุด แต่ว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เวลานี้ความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ แต่ส่งผลใหญ่ต่อภาพรวมของเกม จนถึงภาพรวมของซีซั่นนี้ เกิดขึ้นบ่อยเกิน จากความผิดพลาดปล่อยให้โดนตีเสมอนาทีสุดท้ายในเกมก่อน มาเกมนี้โดนง่ายไปตั้งแต่นาทีครึ่งเลย จังหวะเปิดบอลยาวเข้ามาแบบไม่มีอะไร ลินเดอเลิฟ โดนเบียดโหม่งเข้าไปแบบง่ายๆ ซึ่งมันง่ายๆอีกแล้ว หลายครั้งจนคิดว่า พอจบซีซั่นหากไม่ได้ตามเป้าเราจะหัวร้อนกับ คำว่า เสียประตูง่ายๆนี่แหละ

เกมรุก ไม่มีตัวจบ

ทางด้านเกมรุกกันบ้าง พอเกมนี้โดนไปก่อน เวสต์บรอมวิช ก็ไม่คิดอะไรมาก ตั้งรับยาวๆกันเลย แต่ว่าผลที่ได้ก็คือ แมนยูบุกแบบวันเวย์ หลังลอยดันขึ้นสูงเพื่อทำงานช่วยกองกลาง ซึ่งมันดีมาก กลายเป็นการขึ้นเกมรุกไปถึงพื้นที่สุดท้ายมีความหลากหลายมาก แต่ว่าพวกเค้ากลับไม่มีตัวจบสกอร์เลยในเกมนี้ เนื่องจากอีกฝ่ายเจาะแน่นไปหมด ทำให้เราไม่เห็นว่าจะเจาะได้แต่อย่างใด กองหน้าที่ส่งลงไป ก็แทบจะไม่ได้บอลเลย พอขาดตัวจบมันก็เลยได้แต่จ่ายวนไปมา ซ้ายขวา เปิดเข้าไปก็ไม่ได้ลุ้นอะไรเลย

จะครอสอย่างเดียว….

เมื่อโดน park the bus แน่นอนว่าเกมรุกของแมนยูต้องทำงานหนักมาก แต่สิ่งที่ได้ก็คือ พวกเค้าทำการบุกแบบมิติเดียวก็คือ โยน โยน เปิดบอล วนซ้ำไปมาอยู่อย่างนี้ มิติเดียว มันก็กินหมูสำหรับอีกฝ่ายเลยสิ ที่หัวร้อนก็คงเป็นการไม่กล้ายิงแถวสองเลย ไม่มีใครกล้าเลี้ยงฝ่าดงตีนฝ่ายตรงข้ามเพื่อเรียกฟาลว์นอกกรอบเขตโทษ หรือทำชิ่งพื้นที่แคบๆเพื่อสร้างพื้นที่ยิงเลย อันนี้พอเห็นแล้วหัวร้อนจริง เพราะถ้ามีตัวสูงใหญ่ โหม่งเก่งอย่าง ซูเช็ค, อันโตนิโอ หรือ เคราซ์ ก็ว่าไปอย่างนี่ไม่ไง เล่นอยู่แบบเดียวมันก็หัวร้อนสิ หวังว่าเกมต่อไปจะดีขึ้นนะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Related Post

ทิศทางที่ดีขึ้นของดอร์ทมุนด์ทิศทางที่ดีขึ้นของดอร์ทมุนด์

ปีนี้ บุนเดสลีก้า เป็นลีคที่ลุ้นกันสนุกขึ้นเยอะเลย จากเดิมที่ผูกขาดที่บาเยิร์นมิวนิคอย่างเดียว ปีนี้คั่วกันหลายทีมเลย หลักๆก็จะมีสามทีมอย่าง แอร์เบ ไลป์ซิก, บาเยิร์น มิวนิค และ ดอร์ทมุนด์ ตอนนี้ดอร์ทมุนด์หลังจากกลับมาจากพักเบรกหนีหนาวบอกเลยว่าเหมือนกับเป็นทีมใหม่แต่หน้าเดิม ทิศทางของทีมดีขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยมีสัญญาณบวกอะไรบ้าง กล้าเล่นเกมบุกจากทุกตำแหน่ง ดอร์ทมุนด์ แต่ไหนแต่ไรมาเรื่องเกมบุกต้องไว้ใจเค้าเลย เหมือนนักเตะถูกตั้งโปรแกรมเอาไว้ว่าต้องบุก บุก บุก แล้วก็บุกเพื่อทำประตู ทำคะแนนเท่านั้น พอกลับมาคราวนี้เกมบุกของพวกเค้านี่บอกเลยว่ากล้าเล่นทุกตำแหน่งเลยทีเดียว เอาแต่ตั้งแผงหลังที่ตั้งเกมบุกแบบบอลโยนยาวไดเรคตรงๆก็มี บอลกลางสนามจ่ายทะลุช่องสวยๆแบบคิลเลอร์พาสก็มี หรือจะเป็นการเปิดจากด้านข้างเข้ามาเพื่อแท็บอินทำประตูแบบง่ายๆอันนี้ก็มีด้วยเหมือนกัน พอบุกได้จากทุกตำแหน่งทำให้ฝ่ายตรงข้ามรับมือยากมากไม่รู้จะกันใครดี บอลอยู่ที่ใครยิงเข้าได้หมด ความเฉียบคมของนักเตะ มาร์โค

เชลซีเก็บชัยในศึกยูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีก หลังเอาชนะพานาธิไนกอส

เชลซีเก็บชัยในศึกยูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีก หลังเอาชนะพานาธิไนกอส พร้อมไว้อาลัยให้จอร์จ บัลด็อคเชลซีเก็บชัยในศึกยูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีก หลังเอาชนะพานาธิไนกอส พร้อมไว้อาลัยให้จอร์จ บัลด็อค

เชลซีคว้าชัยชนะอย่างน่าประทับใจด้วยสกอร์ 4-1 เหนือพานาธิไนกอส (Panathinaikos) ในการแข่งขันยูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีก (Europa Conference League) ซึ่งถือเป็นค่ำคืนที่เต็มไปด้วยความหมาย ทั้งในด้านผลการแข่งขันและอารมณ์ความรู้สึกอันลึกซึ้ง หลังจากที่ทีมเจ้าบ้านร่วมไว้อาลัยให้กับ จอร์จ บัลด็อค (George Baldock) อดีตกองหลังผู้ล่วงลับ ซึ่งเสียชีวิตด้วยวัยเพียง 31 ปี เมื่อวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา ชัยชนะครั้งนี้ทำให้เชลซียังคงรักษาฟอร์มการเล่นที่ดีและเพิ่มขวัญกำลังใจให้กับทีมได้อย่างมาก ก่อนการแข่งขันจะเริ่ม นักเตะพานาธิไนกอสสวมเสื้อที่มีหมายเลข 32 ซึ่งเป็นหมายเลขของบัลด็อคลงสนามเพื่อเป็นการระลึกถึงเขา ขณะเดียวกันนักเตะเชลซีก็แสดงความเคารพด้วยการถือเสื้อที่มีชื่อและหมายเลขของบัลด็อค ก่อนที่จะมีการชูป้ายหมายเลข 32

โอมาร์ มาร์มูซ

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หลังการเสริมทัพในเดือนมกราคม การเปลี่ยนแปลงสู่ การเริ่มต้นบทใหม่อีกครั้งแมนเชสเตอร์ ซิตี้ หลังการเสริมทัพในเดือนมกราคม การเปลี่ยนแปลงสู่ การเริ่มต้นบทใหม่อีกครั้ง

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) ได้ทำการเสริมทัพครั้งใหญ่ในตลาดซื้อขายนักเตะเดือนมกราคม เพื่อหลีกเลี่ยงฤดูกาลที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2008-09 ซึ่งเป็นฤดูกาลที่สโมสรถูกซื้อโดยกลุ่มทุนจาก อาบูดาบี (Abu Dhabi) เป๊ป กวาร์ดิโอล่า (Pep Guardiola) กุนซือใหญ่ได้เปิดเผยว่า “ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา สโมสรต้องการเสริมทัพ แต่ผมปฏิเสธไป เพราะผมเชื่อมั่นในนักเตะชุดปัจจุบัน แต่หลังจากที่เราประสบปัญหาการบาดเจ็บ ทำให้ผมคิดว่าเราน่าจะต้องเสริมทัพจริงๆ”   การเสริมทัพครั้งใหญ่ ทีมแชมป์พรีเมียร์ลีก (Premier League) ที่ปัจจุบันรั้งอันดับ 5 ได้คว้าตัวนักเตะใหม่