อัพเดทข่าวเด็ดวงการฟุตบอลให้ท่านได้รู้ตื้นลึกหนาบาง ข่าวฟุตบอล เก็บตกประเด็นสำคัญของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกมล่าสุด

เก็บตกประเด็นสำคัญของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกมล่าสุด

เก็บตกประเด็นสำคัญของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกมล่าสุด

ถือว่าทำได้ตามเป้าของทีม สำหรับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่สามารถเอาชนะเกมนี้ได้ พร้อมกับเก็บ 3 แต้มพาตัวเองมาอยู่อันดับที่ 5 ในตารางลีค (แต่สายลงทุนบ่นเลยว่ายิงน้อยไปหน่อยไม่พอ) ส่วนฟอร์มในสนามต้องบอกเลยว่าเริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้นเรื่อยๆ การเล่น การยิง การจ่าย ดูจะเป็นสิ่งที่เป๊ป พึงพอใจพอสมควร เรามาเก็บตกประเด็นสำคัญของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในเกมนี้กันหน่อย

กาเบรียล เฆซุส มาแล้ว

เกมนี้ดูในไลน์อัพนักเตะลงสนามเชื่อว่าแฟนบอล เรือใบสีฟ้าเองก็น่าจะพอยิ้มได้บ้าง เนื่องจากดาวยิงเบอร์หนึ่งของทีมอย่างกาเบรียล เฆซุส กลับมาลงสนามได้แล้ว การมีเค้าลงสนามต้องบอกว่ามันแตกต่างจากการดันปีกมายืนหน้าแบบคนละเรื่องเลยทีเดียว ส่วนเรื่องฟอร์มต้องยอมรับว่า ไม่ได้เปรี้ยงปร้างเหมือนเดิม อาจจะต้องเคาะสนิมเรียกความมั่นใจกันสักพักเลย กว่าจะกลับมาเป็นคนเดิมได้

เดอ บรอยด์ เทพแอสซิสต์

เกมนี้ เควิน เดอ บรอยด์ เป็นอีกคนหนึ่งที่เราต้องบอกว่า สวมบทบาทเดอะแบกเหมือนกัน เนื่องจากว่าเกมบุกของซิตี้จะมีจุดกำเนิดจากเค้าทั้งนั้น แล้วในเกมนี้ เค้าเองก็ทำแอสซิสต์ 1 และ ประตู 1 (ลูกจุดโทษ) ประเด็นที่เราจะสื่อเป็นเรื่องการแอสซิสต์ในเกมนี้ ที่จริงๆมันควรจะมากกว่านี้ด้วยซ้ำ การจ่ายของเค้าน้ำหนัก ทิศทาง ได้หมดทุกอย่าง แต่เพื่อนกลับทำไม่ได้ตามต้องการซะอย่างนั้น ลองนึกภาพว่าฟอร์มของเค้ากลับมาแบบเดิมอันนี้น่ากลัวต่อกองหลังฝ่ายตรงข้ามอย่างมาก

ไม่เปลี่ยนตัวเลย

เกมนี้มีประเด็นน่าสนใจอย่างหนึ่งก็คือ ตลอดทั้งเกม เป๊ป กวาดิโอลาร์ เลือกที่จะไม่เปลี่ยนตัวนักเตะลงสนามเลย พวกเค้าใช้ชุดเดิมตลอดทั้ง 90 นาที จริงอยู่ว่าไม่ผิดกฏแต่อย่างใด แต่ว่ามันแปลก นำห่าง 2 ประตูกับเกมของฟูแล่มที่ไม่มีอะไรเลย จะเปลี่ยนตัวเซฟนักเตะก็ได้ แต่เค้าเลือกที่จะไม่ทำ แถมหลังเกมเค้าก็ไม่ได้ออกมาบอกอะไรด้วยว่าอะไรถึงทำแบบนั้น

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Related Post

3 ทีมอันตรายที่ลงไปเล่น ถ้วยยูโรป้าลีค3 ทีมอันตรายที่ลงไปเล่น ถ้วยยูโรป้าลีค

สิ่งหนึ่งที่ UCL รอบแบ่งกลุ่มรอบแรกไม่เหมือนกับการแข่งทัวร์นาเมนต์สโมสรอื่นก็คือ หากได้แชมป์กลุ่ม กับรองแชมป์ เราก็ผ่านเข้ารอบต่อไปสู่การน็อคเอาท์ หากได้ที่สามเราก็ยังได้อะไรปลอบใจอยู่นั่นคือการตกลงไปเล่นถ้วยยุโรปถ้วยเล็กที่ชื่อว่า ถ้วยยูโรป้าลีค ซีซั่นนี้มีทีมที่ต้องบอกว่าไม่น่าอกหักจากถ้วยใหญ่ลงไปเล่นถ้วยเล็กได้เลย แต่ก็ต้องไปตามกติกามีทีมไหนน่ากลัวบ้าง เราคัดมาเน้น 3 ทีม อินเตอร์ มิลาน ทีมใหญ่ที่เราขอบอกเลยว่าน่าเสียดายมากที่ต้องลงไปเล่นถ้วย ยูโรป้า ลีค นั่นก็คือ อินเตอร์ มิลาน ทีมยักษ์หลับของอิตาลีหลังจากฟุบไปนานตอนนี้พวกเค้ากลับมาอยู่ในฟอร์มที่ดีอีกครั้งหนึ่ง ยิ่งได้กุนซือมาดเนี้ยบอย่าง อันโตนิโอ คอนเต้ มาทำทีมด้วยแล้วทำให้ อินเตอร์ มิลาน ชุดนี้น่ากลัวมาก คิดดูว่าอินเตอร์ชุดนี้เป็นทีมเดียวที่พร้อมจะท้าชิงตำแหน่งแชมป์ลีคมาจากยูเวนตุสได้

ยุคใหม่ของทีมชาติอังกฤษ ใครบ้างที่ต้องพิสูจน์ตัวเอง

ยุคใหม่ของทีมชาติอังกฤษ: ใครบ้างที่ต้องพิสูจน์ตัวเอง?ยุคใหม่ของทีมชาติอังกฤษ: ใครบ้างที่ต้องพิสูจน์ตัวเอง?

หลังจากความผิดหวังในศึกยูโร 2024 ที่กรุงเบอร์ลิน ทีมชาติอังกฤษ (England)กำลังเริ่มต้นยุคใหม่ โดย ตารางบอล นัดถัดไปคือการลงแข่งขันในศึกเนชันส์ลีก ซึ่งการพบกับสาธารณรัฐไอร์แลนด์ (Ireland)ในวันเสาร์นี้จะเป็นจุดเริ่มต้น โดยในแมตช์นี้เป็นครั้งแรกที่ ลี คาร์สลีย์ (Lee Carsley)ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมชั่วคราวหลังจาก แกเร็ธ เซาธ์เกต ลาออกจากตำแหน่ง หลังคุมทีมมาเป็นเวลา 8 ปี คาร์สลีย์ ซึ่งเคยนำทีมชาติอังกฤษรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปีคว้าแชมป์ยุโรปในปี 2023 ได้รับโอกาสครั้งนี้เพื่อพิสูจน์ความสามารถของเขาในฐานะกุนซือชุดใหญ่ แต่คำถามสำคัญคือ ใครบ้างในทีมอังกฤษที่ต้องพิสูจน์ตัวเองในยุคใหม่ของทีมชาติ? ความท้าทายของ

โรดรีได้รับรางวัลบัลลงดอร์จากผลงานยอดเยี่ยมกับสโมสรและทีมชาติ

โรดรีได้รับรางวัลบัลลงดอร์จากผลงานยอดเยี่ยมกับสโมสรและทีมชาติโรดรีได้รับรางวัลบัลลงดอร์จากผลงานยอดเยี่ยมกับสโมสรและทีมชาติ

บัลลงดอร์ (Ballon d’Or) ถือเป็นหนึ่งในรางวัลที่สำคัญที่สุดในวงการฟุตบอล ซึ่งคัดเลือกโดยนักข่าวจาก 100 ประเทศที่ติดอันดับสูงในโลกของฟีฟ่า โดยเป็นรางวัลที่มอบให้กับนักเตะที่มีผลงานยอดเยี่ยมตลอดปี ในปีนี้ โรดรี (Rodri) นักเตะกองกลางของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) ได้รับรางวัลนี้เป็นการยกย่องผลงานอันยอดเยี่ยมที่เขาทำไว้ทั้งกับสโมสรและทีมชาติสเปน (Spain) ของเขา ฤดูกาลที่ผ่านมา โรดรีช่วยให้ทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ทริปเปิ้ลในปี 2023 ซึ่งประกอบไปด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก (Premier League), เอฟเอ คัพ (FA Cup)