เกมพรีเมียร์ลีก (Premier League) ที่คิง เพาเวอร์ สเตเดียมเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถที่ไม่มีวันหมดอายุของ เจมี่ วาร์ดี้ (Jamie Vardy) นักเตะวัย 37 ปีของเลสเตอร์ ซิตี้ (Leicester City)ในเกมที่เสมอกับ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ (Tottenham Hotspur) 1-1 โดยเขาทำประตูตีเสมอในครึ่งหลัง ซึ่งเป็นการยิงประตูที่ 104 ของเขาหลังจากอายุ 30 ปี เป็นอีกครั้งที่วาร์ดี้พิสูจน์ตัวเองว่าเขายังคงเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีค่าที่สุดของเลสเตอร์ แม้ว่าอายุจะมากขึ้นก็ตาม วันนี้เว็ปไซต์ ทางเข้า sbobet มือ ถือ ได้รวมสิ่งที่น่าสนใจหลังเกมเมื่อคืนมาฝาก
การกลับมาที่ยอดเยี่ยมของเจมี่ วาร์ดี้
เมื่อเกมเริ่มต้นขึ้น ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่โดมินิก โซลันเก้ (Dominic Solanke) กองหน้าคนใหม่ของท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ซึ่งมีค่าตัวถึง 65 ล้านปอนด์ โซลันเก้ได้รับการคาดหวังให้เป็นผู้ทำประตูแทนแฮร์รี่ เคน ที่ย้ายไปบาเยิร์น มิวนิคเมื่อปีที่แล้ว แต่ในเกมนี้กลับเป็นวาร์ดี้ที่กลายเป็นดาวเด่น
หลังจากที่เปโดร ปอร์โร่ ทำประตูให้สเปอร์สนำ 1-0 ในครึ่งแรก วาร์ดี้ก็มาทำประตูตีเสมอในครึ่งหลังด้วยการโหม่งจากลูกครอสของเพื่อนร่วมทีม ประตูนี้เป็นการย้ำเตือนถึงความสามารถในการทำประตูของวาร์ดี้ที่ยังคงไม่เสื่อมคลาย แม้ว่าเขาจะอยู่ในช่วงปลายของอาชีพนักฟุตบอล
เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตกองหลังลิเวอร์พูลได้กล่าวในรายการ Sky Sports ว่า “ผมคิดว่าวาร์ดี้คือนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเลสเตอร์เลยทีเดียว เขาเป็นนักฟุตบอลที่พิเศษ”
โซลันเก้กับความกดดันในการทำประตู
ในขณะที่วาร์ดี้สามารถทำประตูให้เลสเตอร์ได้ โซลันเก้กลับพลาดโอกาสสำคัญในการทำประตูให้สเปอร์ส โซลันเก้เคยทำผลงานได้ยอดเยี่ยมเมื่อฤดูกาลที่แล้วกับบอร์นมัธ โดยทำได้ถึง 19 ประตูในพรีเมียร์ลีก แต่ในเกมนี้เขากลับไม่สามารถทำประตูได้ตามที่หวัง โดยเฉพาะสองโอกาสที่เขาโหม่งตรงไปยังผู้รักษาประตู
แม้ว่าการที่โซลันเก้ยังไม่สามารถทำประตูในเกมแรกของเขากับสเปอร์สอาจเป็นเรื่องที่ทำให้แฟนบอลกังวล แต่ก็ยังคงมีเวลาให้เขาพิสูจน์ตัวเอง การที่เขาได้รับค่าตัวสูงถึง 65 ล้านปอนด์ย่อมมาพร้อมกับความกดดันในการทำประตูให้ได้ตามที่คาดหวัง
แกรี่ เนวิลล์ อดีตกองหลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กล่าวในรายการ Sky Sports ว่า “นี่เป็นบททดสอบสำหรับเขา โซลันเก้ต้องมั่นใจว่าเขาจะไม่เสียความมั่นใจจากการพลาดโอกาสในเกมนี้”
การเล่นของสเปอร์สที่ยังขาดความเด็ดขาด
ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ได้แสดงให้เห็นถึงการครองเกมที่ยอดเยี่ยมในครึ่งแรก แต่การขาดความเด็ดขาดในการทำประตูทำให้พวกเขาไม่สามารถเก็บสามแต้มได้ โซลันเก้พลาดโอกาสสำคัญ และเพื่อนร่วมทีมบางคนยังทำพลาดในการจ่ายบอลในช่วงสุดท้าย
แม้ว่าสเปอร์สจะมีโอกาสชนะเกมในช่วงท้ายแต่ริชาร์ลิซอนก็พลาดการโหม่งที่ควรเป็นประตู ทำให้เกมจบลงด้วยผลเสมอ 1-1 อังเก้ ปอสเตโคกลู ผู้จัดการทีมสเปอร์สกล่าวว่า “ผมคิดว่าเราเล่นได้ยอดเยี่ยมในครึ่งแรกและคุมเกมได้ แต่เราขาดความเด็ดขาดและต้องปรับปรุงเรื่องนี้”
สรุป
เจมี่ วาร์ดี้ ยังคงแสดงความสามารถที่ทำให้เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเลสเตอร์ ซิตี้ การทำประตูของเขาในเกมนี้เป็นการย้ำเตือนถึงคุณค่าของเขาในทีม ขณะที่โดมินิก โซลันเก้ ยังคงต้องพิสูจน์ตัวเองกับสเปอร์ส และต้องการทำประตูเพื่อปลดล็อกความกดดันจากค่าตัวที่สูง การแข่งขันยังคงดำเนินต่อไป และทั้งสองทีมยังมีเวลาในการปรับปรุงและพัฒนาผลงานในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ติดตามทุกข่าวสารกีฬาได้ที่ ทางเข้า sbobet มือ ถือ