อัพเดทข่าวเด็ดวงการฟุตบอลให้ท่านได้รู้ตื้นลึกหนาบาง ข่าวฟุตบอล ซลัตโก้ ดาลิช แสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรงต่อการตัดสินใจของทีมผู้ตัดสิน

ซลัตโก้ ดาลิช แสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรงต่อการตัดสินใจของทีมผู้ตัดสิน

ซลัตโก้ ดาลิช

ซลัตโก้ ดาลิช (Zlatko Dalić) แสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรงต่อการตัดสินใจของทีมผู้ตัดสินในการทดเวลาการแข่งขันนานถึง 8 นาทีในเกมยูโร 2024

ที่ทีมชาติโครเอเชียเสมอกับทีมชาติอิตาลี 1-1 เมื่อวันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน 2024 โดยกุนซือทีมชาติโครเอเชีย (Croatia) รายนี้ได้แสดงความรู้สึกเจ็บปวดอย่างสุดซึ้งกับความเป็นไปได้ที่ทีมของเขาอาจจะต้องตกรอบจากการแข่งขันครั้งนี้

เกมดังกล่าวเป็นการแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม บี ของศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือยูโร 2024 ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศเยอรมนี โดยทีมชาติโครเอเชีย (Croatia) จำเป็นต้องเอาชนะให้ได้เท่านั้นเพื่อที่จะแซงทีมชาติอิตาลีขึ้นไปเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม และการันตีการผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย

ในช่วงครึ่งหลังของเกม ทีมชาติโครเอเชีย (Croatia) สามารถทำประตูขึ้นนำได้ก่อนจากการยิงของกัปตันทีม ลูก้า โมดริช (Luka Modrić) ในนาทีที่ 55 ทำให้แฟนบอลโครเอเชีย (Croatia) เริ่มมีความหวังว่าทีมของพวกเขาจะสามารถเข้ารอบต่อไปได้ อย่างไรก็ตาม ความหวังดังกล่าวต้องพังทลายลงเมื่อทีมชาติอิตาลีสามารถทำประตูตีเสมอได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 8 จากการยิงของ มัตเตีย ซัคคานญี่

ผลการแข่งขันที่ออกมาทำให้ทีมชาติโครเอเชีย (Croatia) มีเพียง 2 คะแนนจากการลงเล่น 3 นัด ส่งผลให้โอกาสในการผ่านเข้ารอบต่อไปของพวกเขาลดน้อยลงอย่างมาก และมีความเป็นไปได้สูงที่จะต้องตกรอบแบ่งกลุ่ม

ซลัตโก้ ดาลิช (Zlatko Dalić) ได้แสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับการตัดสินใจของทีมผู้ตัดสินที่ให้มีการทดเวลาบาดเจ็บนานถึง 8 นาที

โดยเขากล่าวว่า “จริงอยู่ว่าเราเป็นชาติเล็กๆ ไม่มีใครสนใจเรามากนัก แต่ถึงอย่างงั้นคุณก็จะทำการทดเวลานานถึง 8 นาทีไม่ได้ มันเป็นการตัดสินใจที่ไร้สาระสิ้นดี”

ดาลิช ยังเสริมอีกว่า เขาไม่ต้องการที่จะแสดงความโกรธเคืองกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เขาเชื่อว่าทีมชาติโครเอเชีย (Croatia) สมควรได้รับความเคารพ การยอมรับ และการนับถือมากกว่านี้ เขาแสดงความเสียใจที่ทีมของเขาต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องปกป้องตัวเองภายใต้เงื่อนไขเช่นนี้

นอกจากนี้ ดาลิช ยังได้กล่าวขอบคุณนักเตะทุกคนในทีมสำหรับความพยายามและความทุ่มเทที่พวกเขาแสดงออกมาในเกมนี้ โดยเขากล่าวว่า “ผมอยากจะขอบคุณลูกทีมของผมสำหรับการที่พวกเขาพยายามอย่างหนักและทุ่มเทกันอย่างเต็มที่”

กุนซือทีมชาติโครเอเชีย (Croatia) ยังได้แสดงความรู้สึกเจ็บปวดอย่างลึกซึ้งกับผลการแข่งขันที่ออกมา โดยเขากล่าวว่า “ผลการแข่งขันที่ออกมามันเจ็บปวดมากๆ มันยังเจ็บปวดสุดๆ และจะยังเจ็บปวดไม่ว่าจะเป็นในช่วงหลายวันต่อจากนี้หรือหลายเดือนต่อจากนี้ มันไม่ใช่เรื่องที่ทำใจยอมรับได้ง่ายๆ”

อย่างไรก็ตาม ดาลิช ก็ยังแสดงทัศนคติเชิงบวกและมองภาพรวมของสถานการณ์ โดยเขากล่าวว่า “แต่เมื่อเราพิจารณาถึงภาพรวมแล้วนั้นมันก็จะมีบางวันที่ทุกอย่างเป็นใจกับคุณ และบางวันที่มันไม่เป็นใจกับคุณ รวมถึงบางวันที่คุณจะแพ้ ฟุตบอลมันก็เป็นแบบนั้นแหละ”

เหตุการณ์นี้ได้สร้างความผิดหวังอย่างใหญ่หลวงให้กับทีมชาติโครเอเชีย (Croatia) ซึ่งเคยเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศในฟุตบอลโลก 2018 และคว้าอันดับ 3 ในฟุตบอลโลก 2022 โดยทีม “ตราหมากรุก” ได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการแข่งขันระดับสูงมาโดยตลอด

การที่ทีมชาติโครเอเชีย (Croatia) อาจจะต้องตกรอบแบ่งกลุ่มในครั้งนี้ ถือเป็นความผิดหวังอย่างมากสำหรับแฟนบอลชาวโครเอเชีย (Croatia) และวงการฟุตบอลโลก เนื่องจากพวกเขามีนักเตะระดับโลกหลายคนในทีม รวมถึง ลูก้า โมดริช (Luka Modrić) กองกลางคนสำคัญที่ได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่าในปี 2018

ทั้งนี้ ผลการแข่งขันในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มจะเป็นตัวตัดสินว่าทีมชาติโครเอเชีย (Croatia) จะได้ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายหรือไม่ โดยพวกเขาจำเป็นต้องรอลุ้นผลการแข่งขันของทีมอื่นๆ ในกลุ่มด้วย ซึ่งหากโชคไม่เข้าข้าง ทีมอันดับ 3 ของโลกอย่างโครเอเชีย (Croatia) ก็อาจจะต้องเก็บกระเป๋ากลับบ้านตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งจะเป็นความผิดหวังครั้งใหญ่สำหรับวงการฟุตบอลโครเอเชีย (Croatia) อย่างแน่นอน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Related Post

ทิศทางที่ดีขึ้นของดอร์ทมุนด์ทิศทางที่ดีขึ้นของดอร์ทมุนด์

ปีนี้ บุนเดสลีก้า เป็นลีคที่ลุ้นกันสนุกขึ้นเยอะเลย จากเดิมที่ผูกขาดที่บาเยิร์นมิวนิคอย่างเดียว ปีนี้คั่วกันหลายทีมเลย หลักๆก็จะมีสามทีมอย่าง แอร์เบ ไลป์ซิก, บาเยิร์น มิวนิค และ ดอร์ทมุนด์ ตอนนี้ดอร์ทมุนด์หลังจากกลับมาจากพักเบรกหนีหนาวบอกเลยว่าเหมือนกับเป็นทีมใหม่แต่หน้าเดิม ทิศทางของทีมดีขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยมีสัญญาณบวกอะไรบ้าง กล้าเล่นเกมบุกจากทุกตำแหน่ง ดอร์ทมุนด์ แต่ไหนแต่ไรมาเรื่องเกมบุกต้องไว้ใจเค้าเลย เหมือนนักเตะถูกตั้งโปรแกรมเอาไว้ว่าต้องบุก บุก บุก แล้วก็บุกเพื่อทำประตู ทำคะแนนเท่านั้น พอกลับมาคราวนี้เกมบุกของพวกเค้านี่บอกเลยว่ากล้าเล่นทุกตำแหน่งเลยทีเดียว เอาแต่ตั้งแผงหลังที่ตั้งเกมบุกแบบบอลโยนยาวไดเรคตรงๆก็มี บอลกลางสนามจ่ายทะลุช่องสวยๆแบบคิลเลอร์พาสก็มี หรือจะเป็นการเปิดจากด้านข้างเข้ามาเพื่อแท็บอินทำประตูแบบง่ายๆอันนี้ก็มีด้วยเหมือนกัน พอบุกได้จากทุกตำแหน่งทำให้ฝ่ายตรงข้ามรับมือยากมากไม่รู้จะกันใครดี บอลอยู่ที่ใครยิงเข้าได้หมด ความเฉียบคมของนักเตะ มาร์โค

เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์

ฮาแลนด์ เผย ไม่สนใจใครจะว่า ลั่นไม่ขอโทษ กาเบรียล ที่เอาบอลปาหัว เป็นแค่อารมณ์ในเกมเท่านั้น จบแล้วก็จบเลยฮาแลนด์ เผย ไม่สนใจใครจะว่า ลั่นไม่ขอโทษ กาเบรียล ที่เอาบอลปาหัว เป็นแค่อารมณ์ในเกมเท่านั้น จบแล้วก็จบเลย

เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ( Erling Braut Haaland) ดาวยิงตัวแรงของ แมนฯ ซิตี้ (Manchester City) ออกมากล่าวถึงประเด็นที่เขา เอาบอล ปาหัว กาเบรียล มาร์กัลเญซ  (Gabriel Magalhães) ในเกมที่ แมนฯ ซิตี้ เปิด เอติฮัด สเตเดี้ยม เสมอกับ ไอ้ปืนใหญ่ อาร์เซน่อล (Arsenal) ไปแบบ เดือดๆ

ติโม แวร์เนอร์ กับการเดิมพันครั้งสำคัญติโม แวร์เนอร์ กับการเดิมพันครั้งสำคัญ

ข่าวที่ดังสุดชั่วโมงนี้ต้องเป็นดีลของ ติโม แวร์เนอร์ ที่สุดท้ายกลายเป็นเชลซีได้ตัวเค้าไปในที่สุด หลังจากตามข่าวมาตอนนี้ประกาศเป็นทางการออกมาแล้ว ค่าตัวถือว่าใช้ได้เลย การย้ายครั้งนี้มองอีกมุมถือว่าเป็นการเดิมพันครั้งสำคัญของ แวร์เนอร์ในชีวิตบนเส้นทางฟุตบอลเลย มีประเด็นอะไรน่าสนใจกันบ้าง การเล่นฟุตบอลที่พรีเมียร์ลีค ฟุตบอลพรีเมียร์ลีค แม้จะเป็นนักเตะทีมชาติเยอรมันแต่ก็ต้องยอมรับว่าบางคนมาแล้วก็ประสบความสำเร็จ แต่บางคนก็เอาชื่อมาทิ้งก็มีด้วยเหมือนกัน ฟุตบอลพรีเมียร์ลีค จะมีความแตกต่างกับ ฟุตบอลบุนเดสลีก้าพอสมควร ถือว่าเป็นการเดิมพันของ แวร์เนอร์เหมือนกันว่า เมื่อเค้าต้องมาเล่นต่างแดน จะทำผลงานได้ดีเหมือนเดิมหรือไม่ เพราะแวร์เนอร์จะต้องมาชนกับกองหลังของพรีเมียร์ลีคที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหด เหนียว และเล่นกันแบบถึงเนื้อถึงตัวเลย เค้าจะกระดิกพลิกตัวไปยิง หรือ เลี้ยงบอลอาจจะไม่ง่ายเหมือนเก่า เค้าจะทำได้หรือไม่ การแย่งตัวจริงในทีมชาติ มองในเรื่องของทีมชาติ ตอนนี้