อัพเดทข่าวเด็ดวงการฟุตบอลให้ท่านได้รู้ตื้นลึกหนาบาง ข่าวฟุตบอล ยุคใหม่ของทีมชาติอังกฤษ: ใครบ้างที่ต้องพิสูจน์ตัวเอง?

ยุคใหม่ของทีมชาติอังกฤษ: ใครบ้างที่ต้องพิสูจน์ตัวเอง?

ยุคใหม่ของทีมชาติอังกฤษ ใครบ้างที่ต้องพิสูจน์ตัวเอง

หลังจากความผิดหวังในศึกยูโร 2024 ที่กรุงเบอร์ลิน ทีมชาติอังกฤษ (England)กำลังเริ่มต้นยุคใหม่ โดย ตารางบอล นัดถัดไปคือการลงแข่งขันในศึกเนชันส์ลีก ซึ่งการพบกับสาธารณรัฐไอร์แลนด์ (Ireland)ในวันเสาร์นี้จะเป็นจุดเริ่มต้น โดยในแมตช์นี้เป็นครั้งแรกที่ ลี คาร์สลีย์ (Lee Carsley)ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมชั่วคราวหลังจาก แกเร็ธ เซาธ์เกต ลาออกจากตำแหน่ง หลังคุมทีมมาเป็นเวลา 8 ปี

คาร์สลีย์ ซึ่งเคยนำทีมชาติอังกฤษรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปีคว้าแชมป์ยุโรปในปี 2023 ได้รับโอกาสครั้งนี้เพื่อพิสูจน์ความสามารถของเขาในฐานะกุนซือชุดใหญ่ แต่คำถามสำคัญคือ ใครบ้างในทีมอังกฤษที่ต้องพิสูจน์ตัวเองในยุคใหม่ของทีมชาติ?

ความท้าทายของ ลี คาร์สลีย์ กับโอกาสครั้งสำคัญ

แม้จะมีรายชื่อผู้จัดการทีมชื่อดังหลายคนที่ถูกพูดถึงในการคุมทีมชาติอังกฤษในอนาคต แต่ในระยะสั้น คาร์สลีย์มีโอกาสสำคัญที่จะพิสูจน์ว่าตัวเขามีความสามารถในการนำทีมชาติอังกฤษไปข้างหน้าได้ นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 ที่กำลังใกล้เข้ามาในอีกสองปีข้างหน้า ซึ่งทำให้สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (FA) ต้องการผู้จัดการทีมถาวรในเร็วๆ นี้

คาร์สลีย์จะต้องพิสูจน์ตัวเองในสองเกมถัดไปที่จะพบกับสาธารณรัฐไอร์แลนด์และฟินแลนด์ ซึ่งทั้งสองเกมจะเป็นบททดสอบสำคัญสำหรับเขา ไม่เพียงแต่เพื่อแสดงความสามารถในการคุมทีม แต่ยังเป็นโอกาสที่จะแสดง “Carsball” สไตล์การเล่นที่เขาพัฒนามาจากประสบการณ์คุมทีมชุดเยาวชน

หากเขาประสบความสำเร็จ คาร์สลีย์อาจได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการทีมชาติอังกฤษถาวร เช่นเดียวกับกรณีของเซาธ์เกตที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งจากการคุมทีมชุดอายุไม่เกิน 21 ปี

นักเตะที่ต้องพิสูจน์ตัวเองในยุคใหม่

เมื่อทีมชาติอังกฤษเริ่มต้นการเดินทางในยุคใหม่ มีนักเตะหลายคนที่ต้องการพิสูจน์ตัวเองว่าพวกเขามีความสามารถในการเล่นในระดับสูงและเหมาะสมกับทีมชาติในอนาคต หนึ่งในนั้นคือ จูด เบลลิงแฮม (Jude Bellingham) กองกลางดาวรุ่งที่ได้รับความสนใจจากหลายสโมสรชั้นนำทั่วยุโรป การแข่งขันในระดับชาติจะเป็นโอกาสสำคัญสำหรับเขาในการแสดงศักยภาพ

อีกหนึ่งนักเตะที่ต้องจับตามองคือ มาร์คัส แรชฟอร์ด (Marcus Rashford) ที่แม้จะเป็นหนึ่งในตัวหลักของทีมชาติอังกฤษ แต่เขายังต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่าเขาสามารถรับบทบาทสำคัญในการแข่งขันระดับโลกได้ต่อไป การทำประตูและผลงานในการแข่งขันระดับสูงจะเป็นตัวชี้วัดความสามารถของเขา

ในขณะเดียวกัน ฟิล โฟเดน (Philip Foden)กองกลางของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็เป็นอีกหนึ่งนักเตะที่ถูกจับตามองมากเช่นกัน หลังจากที่มีบทบาทสำคัญกับสโมสร โฟเดนจะต้องแสดงฝีเท้าในระดับทีมชาติเพื่อยืนยันว่าเขาสามารถก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมชาติอังกฤษได้ในอนาคต

การเปลี่ยนแปลงและความคาดหวังจากแฟนบอล

แม้ทีมชาติอังกฤษจะทำผลงานได้ดีในหลายทัวร์นาเมนต์ในยุคของเซาธ์เกต แต่แฟนบอลหลายคนยังคาดหวังเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในการเล่น โดยเฉพาะการเล่นเกมรุกที่มีความเสี่ยงมากขึ้นและสไตล์การเล่นที่เปิดกว้าง ซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดหายไปในหลายปีที่ผ่านมา

คาร์สลีย์มีความมุ่งมั่นที่จะปรับปรุงทีมและนำความเป็นตัวเองเข้าสู่การคุมทีม โดยเขากล่าวว่า “สิ่งสำคัญคือต้องใส่ความเป็นตัวเองเข้าไปบ้าง ขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับในสิ่งที่ผู้เล่นทำไว้ในอดีตเมื่อเราเข้าใกล้ความสำเร็จมาก” คำพูดนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะสร้างทีมใหม่ที่สามารถแข่งขันในระดับสูงได้ต่อไป

บทสรุป

ยุคใหม่ของทีมชาติอังกฤษกำลังเริ่มต้นขึ้น และเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ต้องพิสูจน์ตัวเองทั้งในส่วนของผู้จัดการทีมอย่าง ลี คาร์สลีย์ และนักเตะหลายคนที่ต้องการสร้างความประทับใจโดย ตารางบอล การแข่งขันในศึกเนชันส์ลีกครั้งนี้จะเป็นตัวชี้วัดสำคัญว่าอังกฤษจะสามารถเดินหน้าสู่ความสำเร็จในระดับโลกได้หรือไม่

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Related Post

10 ช่วงเวลาประทับใจของทีมชาติอังกฤษภายใต้การคุมทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต

10 ช่วงเวลาประทับใจของทีมชาติอังกฤษภายใต้การคุมทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต10 ช่วงเวลาประทับใจของทีมชาติอังกฤษภายใต้การคุมทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต

แกเร็ธ เซาธ์เกต (Gareth Southgate) ประกาศลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติ อังกฤษ หลังจากทำหน้าที่มาเป็นเวลา 8 ปี ทิ้งไว้ซึ่งความทรงจำอันแสนวิเศษมากมาย มาดูกันว่า 10 ช่วงเวลาที่น่าประทับใจที่สุดมีอะไรบ้าง ความสำเร็จของ เซาธ์เกต เซาธ์เกต รับช่วงต่อทีมชาติอังกฤษที่ไม่เคยชนะในรอบน็อคเอาท์มานานกว่าทศวรรษ ไม่เคยชนะจุดโทษมาสองทัวร์นาเมนต์ และเพิ่งเห็นผู้จัดการทีมคนก่อนถูกไล่ออกหลังคุมทีมเพียงแมตช์เดียว แต่ภายใต้การคุมทีมของ เซาธ์เกต ทีมชาติ อังกฤษ ได้เข้าถึงรอบรองชนะเลิศ 3 ครั้ง และรอบชิงชนะเลิศ 2 ครั้ง จาก

เอริค เทน ฮาก

ยังให้ใจเย็นอยู่ เอริค เทน ฮาก วอนแฟนผี รอตัดสินกันอีกที ตอนจบซีซั่น หลังเกมบุกไล่ตีเสมอ ปอร์โต้ 3-3ยังให้ใจเย็นอยู่ เอริค เทน ฮาก วอนแฟนผี รอตัดสินกันอีกที ตอนจบซีซั่น หลังเกมบุกไล่ตีเสมอ ปอร์โต้ 3-3

เชื่อได้เลยว่าตอนนี้แฟนๆ ปิศาจแดง ทั้งหลายแหล่ ต่างเหลืออดเหลือทนกับกุนซือมาดนิ่งอย่าง เอริค เทน ฮาก (Erik ten Hag) กันหมดแล้วโดยเฉพาะ อย่างยิ่งเกมล่าสุดที่ทำท่าเหมือนจะดูดี หลังจากบุกไปออกนำ ปอร์โต้ (FC Porto) เจ้าบ้านได้ก่อนถึง 2-0 แต่ทว่า กลับถูกยิงรัวโดนแซงกลับมานำได้ 3-2 ก่อนที่ แมนฯ ยูไนเต็ด นั้นจะมาได้ประตูตีเสมอในช่วง ทดเวลาบาดเจ็บ จาก แฮรี่ แม็คไกวร์ (Harry

รูเบน อโมริม

“แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นด้วยความกังวลและความกลัวมากเกินไป” – อโมริม“แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นด้วยความกังวลและความกลัวมากเกินไป” – อโมริม

“แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นด้วยความกังวลและความกลัวมากเกินไป” – อโมริม (Amorim) รูเบน อโมริม (Ruben Amorim) ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดเผยว่านักเตะของเขา “มีความกังวลและความกลัวมากเกินไป” และฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่ของทีมส่งผลกระทบต่อตัวเขาเองอย่างมาก ทีมปีศาจแดงมีโปรแกรมเยือนจ่าฝูง ลิเวอร์พูล ในวันอาทิตย์ (เวลา 16:30 น. ตามเวลาอังกฤษ) หลังจากพ่ายแพ้มา 4 นัดติดต่อกันในทุกรายการ รวมถึง 3 นัดในพรีเมียร์ลีก พวกเขาชนะเพียง